การตรวจสอบไดชาร์จเบื้องต้น
อาการไดชาร์จเสีย อาการไดชาร์ทเสีย การตรวจสอบไดชาร์จเบื้องต้น
Alternator (อัลเทอเนเตอร์) หรือไดชาร์จ (ที่เรานั้นค่อนข้างคุ้นหูมากกว่า) เป็น
อุปกรณ์สำคัญของระบบไฟฟ้าในตัวรถยนต์ นอกเหนือไปจากแบตเตอรี่, ตัวแปลง
กระแสและสายไฟ กับการทำหน้าที่ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ป้อนให้กับแบตเตอรี่
และอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ โดยมีที่สายพานที่ต่อตรงกับพูลเล่ย์หน้าเครื่อง ทำหน้าที่
ปั่นไดชาร์จนั่นเองล่ะครับ หากไดชาร์จเสีย ก็เท่ากับว่าแบตเตอรี่ต้องจ่ายกระแส
ไฟเพียงลำพัง คือจ่ายอย่างเดียว แต่ไม่มีการป้อนเข้า นั่นหมายความว่าแบตเตอรี่
จะค่อยๆ หมดไฟไปเรื่อยๆ จนกระทั่งไม่มีเหลือพอสำหรับการสตาร์ทในครั้งต่อไป
เลยล่ะครับ
ไฟเตือนบนหน้าปัด เมื่อใดที่ไฟเตือนรูปแบตเตอรี่บนหน้าปัดสว่างขึ้นในขณะที่
สตาร์ทล่ะก็ แสดงว่าไดชาร์จมีปัญหาแล้วล่ะครับ ให้รีบนำรถเข้าตรวจเช็คโดยเร็ว
ที่สุด
สตาร์ทแล้วอิดออด ในกรณีที่สตาร์ทไม่ติด ก็อาจเป็นได้ว่าไดชาร์จอาจมีปัญหา
แต่ก็ควรที่จะเช็คแบตเตอรี่ควบคู่กันไปด้วย ซึ่งก็รวมไปถึงแบตเตอรี่ด้วยครับ โดย
หากแบตเตอรี่ (ยังสมบูรณ์) แต่ต้องชาร์จไฟบ่อยๆ ล่ะก็ อาจจะต้องนำไดชาร์จไป
ตรวจเช็คหรือเปลี่ยนโดยด่วนเลยล่ะครับ
อายุของรถ เป็นธรรมดาของทุกสรรพสิ่งที่ต้องเสื่อมไปตามกาลเวลา ยิ่งรถเก่าๆ
ที่มีปัญหาเรื่องการสตาร์ทบ่อยๆ ด้วยล่ะก็ จะมีแนวโน้มที่ไดชาร์จจะเสื่อมค่อนข้าง
สูงเลยล่ะครับ
ปัญหาจากสายพานไดชาร์จ บางทีก็เป็นปัญหาเส้นผมบังภูเขา เพราะไดชาร์จ
กับแบตเตอรี่อาจจะยังปกติ เพียงแต่สายพานเสื่อมสภาพจนไม่สามารถขับเคลื่อน
ไดชาร์จได้ก็มี ส่วนใหญ่จะมาพร้อมเสียงด้วยครับ
อุปกรณ์ไฟฟ้าทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ ให้ลองไปเปิดไฟหน้า, เครื่องเสียง
หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ แล้วลองดูว่ารอบเครื่องตกหรือไม่นิ่งหรือไม่? ซึ่งถ้ารถออก
อาการดังกล่าวก็แสดงว่าไดชาร์จเริ่มเสื่อมแล้วครับ
ถ้าเป็นรถเดิมๆ จากโรงงาน หรือเป็นรถที่ไม่ได้มีอุปกรณ์ไฟฟ้าแปลกปลอมไปกว่า
ของเดิมมากนัก ระบบไฟฟ้าก็มักจะไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ แต่หากนำรถไปติดตั้ง
เครื่องเสียง, สปอทไลท์ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต้องการใช้กระแสมากกว่าปกติ ก็จะมี
ปัญหาเรื่องกระแสไฟไม่พอการเปลี่ยนเฉพาะไดชาร์จหรือแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่
ขึ้นเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง จะก่อให้เกิด
ปัญหาตามมาในภายหลัง อย่างเช่น หาก
เปลี่ยนแบตเตอรี่ให้ใหญ่ขึ้น แต่ไดชาร์จ
เท่าเดิม ก็จะทำให้ไดชาร์จ ต้องทำงาน
เกือบตลอดเวลา เพื่อที่จะผลิตกระแสไฟ
ป้อนให้กับตัวแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
(เติมเท่าไหร่ก็จะไม่เต็ม) ในทางตรงกัน
ข้าม หากเปลี่ยนเฉพาะไดชาร์จให้ใหญ่
ขึ้นเพียงอย่างเดียว (แบตเตอรี่เท่าเดิม)
ก็จะก่อให้เกิดการชาร์จกระแสไฟมากเกิน
ก็ยังผลให้ แผ่นธาตุในตัวแบตเตอรี่เสื่อม
สภาพเร็วขึ้น หรืออาจรุนแรงขนาดถึงขั้น
แบตเตอรี่ระเบิดจากการชาร์จมากเกินได้ด้วยครับ
ปัญหาเรื่องระบบไฟฟ้าเป็นอะไรที่ค่อนข้างใกล้ตัวเรามาก เพราะนับตั้งแต่สตาร์ท
เครื่องก็ต้องใช้กระแสไฟฟ้าแล้ว ไหนจะระบบจุดระเบิด, ระบบส่องสว่างต่างๆหรือ
กระทั่งความบันเทิงภายในห้องโดยสาร ก็ล้วนแต่ต้องใช้กระแสไฟฟ้าทั้งนั้นดังนั้น
หากอุปกรณ์หลักอย่างไดชาร์จ มีอาการรวนล่ะก็ วุ่นวายไม่น้อยเหมือนกันถ้าเสื่อม
สภาพตามกาลเวลาคงป้องกันอะไรไม่ได้มาก เท่าที่ทำได้ก็คือจะต้องหมั่นสังเกตุ
อาการผิดปกติ แล้วรีบตรวจเช็คโดยเร็วที่สุดนั่นแหละครับ
ที่มา etoyota club
No comments yet.